-------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------

ลงโฆษณา

วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อย่าพูดแบบตบหัวแล้วลูบหลัง

i46352695dy6คำพูดประโยคที่ว่า “ตบหัวแล้วลูบหลัง” เป็นคำพูดที่เราคุ้นเคยดี แต่ทว่าคงไม่มีใครที่ต้องการตกอยู่ใสถานการณ์เช่นนั้นเป็นแน่ และทุกคนย่อมรู้ตัวดีว่าขณะนั้นอีกฝ่ายกำลังใช้วิธีการพูดแบบตบหัวแล้วลูบหลังอยู่

ดังนั้น กลวิธีการพูดที่คุณต้องการโน้มน้าวหรือจูงใจให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกตัวหรือสำนึกว่าเขาได้กระทำความผิด หรือเขาควรกระทำอย่างอื่นอย่างใดในวิถีทางที่คุณต้องการ คุณก็ไม่ควรจะใช้วิธีการพูดแบบตำหนิก่อนแล้วจึงค่อยปลอบโยนเขา เพราะนั่นไม่ใช้วิธีที่ได้ผลที่จะทำให้เขารู้สึกว่าผิดและสมควรปรับปรุงแก้ไขการกระทำนั้นแต่อย่างใด

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นครูแล้วต้องการจะตำหนิติเตียนลูกศิษย์คนหนึ่งที่มีระดับการเรียนที่เลวลง แต่คุณใช้วิธีการพูดในทำนองว่า

“เธอไม่มีความตั้งใจเรียนเลย ขาดเรียนบ่อยครั้ง งานก็ไม่ส่ง อยู่ในห้องก็ไม่มีสมาธิไม่ตั้งใจฟัง นี่ก็ใกล้จะสอบแล้วขืนทำตัวอย่างนี้คงไม่มีเวลาเรียนพอที่จะเข้าสอบแน่ ทำไมยังคงทำตัวเป็นเด็กๆ เช่นนี้ จะให้ต้องคอยจ้ำจีจำไชไปถึงไหน ไม่ความรับผิดชอบเอาเสียเลย แค่ตั้งใจเรียนยังทำไม่ได้อีกหน่อยจะทำอะไรกินได้ ครูให้โอกาสเธอปรับตัวใหม่แล้วกันนะ ตอนนี้ยังพอมีเวลาทันที่จะเรียนตามเพื่อนให้ได้”

กลวิธีที่ตำหนิติเตียนก่อนแล้วจึงค่อยมาให้กำลังใจหรือปลอบโยนเช่นนี้ แม้ว่าลูกศิษย์ผู้นั่นจะพอใจที่สามารถจะมีสิทธิ์เข้าสอบได้ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ได้มีความสำนึกลึกซึ้งในการที่จะต้องปรับปรุงตัวหรือรู้สึกนับถือชื่นชมคุณแต่อย่างใด

อย่าพูดแบบตบหัวแล้วลูบหลัง(2)

สิ่งที่อาจสนใจ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น