ก่อนที่เราจะเริ่มใช่คารมคมคายของเราโน้มน้าวจูงใจใครอื่นคุณจะต้องหัดเป็นนักฟังที่ดีเสียก่อนเป็นสำคัญ
ยกตัวอย่าง ถ้าคุณหาเพื่อนคนหนึ่งที่บ้านเพื่อจะขายเครื่องสำอางประเภทบำรุงผิวให้ดูอ่อนเยาว์ตลอดกาลราคาชุดละเกือบ 1 หมื่นบาท เมื่อไปถึงเพื่อนของคุณนั่งคุยเป็นเชิงบ่นให้ฟังถึงเรื่องลูกเต้า เรื่องสามีหรือเรื่องใดๆ ก็ตาม แต่คุณรู้สึกรำคาญมากจึงพยายามตัดบทด้วยการเสนอขายสินค้าโดยตรงทันที เพื่อนของคุณคงจะไม่ซื้อสินค้าของคุณแน่นอน
เพราะเธอจะรู้สึกว่าคุณมุ่งตรงมาหาเธอเพื่อจะขายของอย่างเดียวเลย
แต่ถ้าคุณนั่งฟังอย่างแย้มยิ้ม พูดจาตอบกลับไปบ้างโดยแสดงความคิดเห็นเล็กๆ น้อยๆ แต่พอควร ดวงตาสบตาของผู้พูด แสดงท่าที่ว่าสนใจรับฟังเรื่องราวต่างๆ ของเพื่อน พยักหน้าบ้าง หัวเราะหรือยิ้มบ้าง อย่าขัดจังหวะผู้พูดอย่างเสียมารยาท กระทำอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างจริงใจ
เมื่อมีโอกาสพูดจาเสนอขายสินค้า เพื่อนของคุณก็จะเป็นฝ่ายฟังคุณบ้าง และตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณ มิใช่ด้วยเหตุผลว่าเธอกำลังต้องการบำรุงผิวพรรณหรอก
แต่เป็นเพราะคุณรับฟังเธออย่างดียิ่งนั่นเอง
นอกเหนือจากตัวอย่างนี้ แม้เป็นสถานการณ์อื่นๆ ก็เช่นกัน
หากคุณเป็นหัวหน้าคน คุณก็ต้องทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีก่อนที่จะเอ่ยปากตำหนิลูกน้อง ถ้าจู่ๆ คุณเรียกลูกน้องมาดุด่าว่ากล่าวโดยไม่ฟังเหตุผลของเขาก่อนเลย คุณก็จะเป็นหัวหน้าที่ไม่มีใครให้ความเคารพนับถือยำเกรงอย่างจริงใจแน่นอน
การนั่งฟังอย่างสนใจนั้น เป็นภาษากายที่จูงใจคนได้อีกวิธีหนึ่งและทำให้คนระทับใจได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อคุณสามารถสร้างความประทับใจได้ในเบื้องต้นแล้วการพูดของคุณก็จะได้ผลดีเพราะผู้อื่นจะรับฟังคุณด้วยทัศนคติที่ดีต่อคุณ จึงไม่มีความรู้สึกจะต่อต้านคัดค้านในสิ่งที่คุณพูดและประสงค์จะโน้มน้าวจูงใจให้คนผู้นั้นคล้อยตามคุณได้นั่นเอง
สิ่งที่อาจสนใจ
- เทคนิกการแต่งตัวตามแฟชั่น
- ดึงรางวัลมาโน้มน้าว(1)
- ทำไมต้องพูดจูงใจ
- ตุ๊กตาหมีน่ารัก
- ของขวัญแด่คนที่คุณรัก
-
ช่วยตัดสินใจ..เพื่อการจูงใจ(1)
-
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น