-------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------------------------------------------

ลงโฆษณา

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

อย่าจูงใจ...แบบจงใจ

guy_getting_taxes_fig_a_ha

บางครั้งการพูดจูงใจคนหรือโน้มน้าวจิตใจคนนั้น หากทำไปโดยการจงใจหรือตั้งใจที่จะพูดเพื่อที่จะให้คนอื่นคล้อยตามมันอาจจะมิได้ให้ผลสำเร็จด้วยดี เพราะบางครั้งสถานการณ์ฝ่ายตรงข้ามที่เป็นผู้ฟังหรือเป็นเป้าหมายของเรานั้น จะมีความระแวดระวังตัวและอาจจะตั้งกำแพงเป็นเกราะขวางกั้นเตรียมจะโต้แย้งหรือคัดค้านเราเอาไว้ก่อนอยู่แล้ว

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณรู้จักใครคนหนึ่งซึ่งเป็นพนักงานขายของระบบขายตรง ซึ่งเมื่อใครคนนั้นแวะเวียนไปหาเพื่อนสนิทมิตรสหายหรือคนรู้จักกัน ณ ที่ใดก็มักจะเสนอขายสินค้าให้อยู่เสมอ และจะพยายามโน้มน้าวเกลี้ยกล่อม จนอีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกอึดอัดพูดจาไม่ถูก และต้องนั่งฟังการโปรโมทสินค้าหรือการสาธิตสินค้าทั้งๆ ที่อีกฝ่ายหนึ่งยังไม่มีเวลาว่างพอหรือยังไม่สะดวกไม่พร้อมที่จะฟัง และอาจจะยังไม่มีความต้องการในสินค้าดังกล่าวนั้น

หากวันใดก็ตามที่ใครคนนั้นมาพบคุณที่บ้าน คุณก็ย่อมจะคิดแล้วว่าเพื่อนต้องการมาพบมาเยียนคุณเพื่อต้องการจะขายของแน่นอน ความรู้สึกเช่นนี้นี่เองคือการตั้งเกราะกำแพงเอาไว้ตั้งแต่แรกพบ

แต่ถ้าคุณเองกลายเป็นเช่นบุคคลผู้นั้น คุณจะทำอย่างไรเพื่อจะทลายกำแพงทรายเกราะที่อีกฝ่ายหนึ่งสร้างเอาไว้อยู่แล้ว เมื่อคุณยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย

ในกรณีที่คุณเป็นฝ่ายต้องการจะโน้มน้าวจูงใจฝ่ายตรงข้าหรือสมมติว่าคุณเป็นผู้ที่หารายได้พิเศษในยามว่างหลังจากงานประจำด้วยการขายสินค้าระบบขายตรง ซึ่งจะมีสินค้ามากมายหลายชนิดที่เป็นทั้งข้าวของเครื่องใช้ในบ้านและเป็นเครื่องสำอางต่างๆ

เมื่อคุณไปพบกับเพื่อนคนหนึ่งที่บ้านแทนที่คุณจะจูงใจด้วยการเริ่มต้นตรงๆ ว่า “ดูหน้าตาของเธอสิซีดเซียวเกินไปหน่อยนะ ควรจะรู้จักแต่งหน้าแต่งตาบ้าง ถ้าไม่ชอบไปเดินหาซื้อตามห้างฯ ฉันจะแนะนำชุดเครื่องสำอางให้เธอเอาไหม เธอจะได้แต่งแต้มหน้าตาให้มีสีสันดูดีขึ้นสักหน่อย” ถ้าคุณพูดอย่างนี้รับรองว่าไม่ใครซื้อสินค้าของคุณแน่ เพราะคิดว่าคุณต้องการมาขายของ และถือวิสาสะมาก้าวก่ายหรือยุ่งกับหน้าตาของเขาซึ่งคงจะไม่มีใครพอใจเป็นแน่

แต่คุณไปเยี่ยมเยียนเพื่อนด้วยการชวนคุยเรื่องสัพเพเหระไปก่อน ในบางช่วงที่มีโอกาสเหมาะสมก็พูดขึ้นว่า “ดูหน้าตาของเธอสิ ช่างเกลี้ยงเกลาดีจริงนะ ขนาดไม่แต่งหน้าแต่งตาก็ยังดูดี ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งนวลเนียนดีจริงๆ อย่างนี้ไม่ต้องแต่งหน้าหรอกนะเพราะแบบนี้ก็ดูสะอาดเกลี้ยงเกลาใสๆ ดี” การที่คุณพูดอย่างนี้อีกฝ่ายหนึ่งจะรู้ได้เองว่า คุณไม่ได้ตั้งใจจะขายเครื่องสำอางเลย เพราะคุณไม่ได้ชักชวนให้ใช้เครื่องสำอางแต่อย่างใด

หากคุณพูดคุยเรื่องอื่นๆ ไปอีกสักพัดและลากกับโดยไม่ได้จงใจขายสินค้าใดๆ เลย ฝ่ายตรงข้ามก็จะรู้สึกคลี่คลายสบายใจ รู้สึกว่าไม่ต้องสร้างกำแพงหรือเกราะป้องกันใดๆ อีก เพราะคุณไม่ได้มาขายของเสมอไป คุณอาจแวะมาเยี่ยมเยียนเท่านั้น

ในวันหลังๆ ที่คุณพบกับเพื่อนคนนี้ คุณก็ยังไม่เคยที่จะจงใจพูดจาชักชวนให้อีกฝ่ายหนึ่งซื้อสินค้า ในไม่ช้าก็ปรากฏว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นฝ่ายมาไถ่ถามคุณเองถึงเรื่องเครื่องสำอางบำรุงผิวต่างๆ เพราะคุณได้เอ่ยชมไปแล้วว่าเธอมีผิวพรรณที่ดี ดังนั้นเธอจึงคิดว่าเธอควรจะอุดหนุนซื้อเครื่องสำอางของคุณสักชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นเครื่องสำอางบำรุงผิวพรรณ เพราะลักษณะของเธอเป็นคนที่ใส่ใจบำรุงผิวพรรณมากกว่าการแต่งหน้า

สิ่งที่อาจสนใจ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น